เคลเลเฮอร์อาจก้าวสู่หนึ่งในผู้รักษาประตูระดับโลก
การกลับมาของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่ใกล้จะหายจากอาการบาดเจ็บ อาจทำให้ช่วงเวลาทองของ ควิวีน เคลเลเฮอร์ ในฐานะนายทวารตัวจริงของลิเวอร์พูลต้องจบลง
แต่สำหรับเคลเลเฮอร์ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ได้แค่ทำหน้าที่แทน แต่ยังพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้รักษาประตูที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ วัย 25 ปีรายนี้แสดงให้เห็นถึงความเหนียวแน่นในสนาม โดยเฉพาะในเกมทีมชาติไอร์แลนด์ที่เขาโชว์ฟอร์มเด่น คว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ ด้วยการเซฟสำคัญช่วยทีมเอาชนะฟินแลนด์ 1-0
แม้เวลาของเขาในทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลอาจสั้น แต่ผลงานที่เขาสร้างไว้เปรียบเสมือนคำประกาศว่า เขาพร้อมสำหรับอนาคตที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อย่างแท้จริง
เขาเซฟลูกจุดโทษของ โจเอล โปห์ยานพาโล และป้องกันลูกซ้ำของ โรบิน ล็อด ได้อย่างยอดเยี่ยม ในเกมที่ทีมชาติไอร์แลนด์ชนะฟินแลนด์ในศึกเนชันส์ลีกที่สนามอาวีวา สเตเดียม
หลังจากเกมนี้ อดีตกองหน้าทีมชาติไอร์แลนด์ เควิน ดอยล์ ให้สัมภาษณ์กับ RTE ว่า “ผมคิดว่าในอีกห้าหรือหกปีข้างหน้า เขาจะกลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดหนึ่งหรือสองคนของโลก”
“เขาเก่งในทุกด้านที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค ทักษะ หรือความเข้าใจเกม เขามีทุกอย่างครบถ้วนจริง ๆ ถ้าเขาได้ลงสนามมากกว่านี้ ผมเชื่อว่าเขาจะก้าวขึ้นเป็นมือหนึ่งได้อย่างแน่นอน”
เคลเลเฮอร์ถูกยกย่องว่าเป็นตัวสำรองที่ดีที่สุดในโลก และทุกครั้งที่ได้รับโอกาสลงสนาม เขาก็มักจะโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเสมอ ในฤดูกาลนี้ เขาลงเล่นให้ทีมลิเวอร์พูลของ อาร์เน สลอต ไปแล้วแปดนัดและเสียเพียงห้าประตูเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากอลิสซอนยังคงฟิตสมบูรณ์ตลอดทั้งฤดูกาลนี้ เคลเลเฮอร์อาจจะมีโอกาสได้ลงเล่นเพียงไม่กี่นัดในศึกคาราบาว คัพและเอฟเอ คัพเท่านั้น และในขณะที่ บาเลนเซียกำลังเตรียมคว้าตัว จอร์จี มามาร์ดาชวิลี ในช่วงซัมเมอร์ เคลเลเฮอร์อาจจะไม่ได้เป็นตัวเลือกลำดับสองด้วยซ้ำหากเขาเลือกที่จะอยู่กับทีมต่อไป
เคลเลเฮอร์มีโอกาสรักษาตำแหน่งในลิเวอร์พูลได้หรือไม่?
อนาคตของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ กับตำแหน่งในทีมลิเวอร์พูลยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหลังจากที่เขาทำผลงานโดดเด่นในช่วงที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ มีอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เขาจะรักษาตำแหน่งไว้ได้นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:
ฟอร์มของอลิสซอน:
หากอลิสซอนยังคงฟิตและรักษาฟอร์มระดับสูงได้ เคลเลเฮอร์อาจจะต้องกลับไปเป็นตัวสำรอง ซึ่งเขาจะมีโอกาสลงเล่นเฉพาะในถ้วยเล็กอย่าง คาราบาว คัพ หรือ เอฟเอ คัพ เท่านั้นการเสริมทีมของลิเวอร์พูล:
มีรายงานว่าลิเวอร์พูลเตรียมคว้าตัว จอร์จี มามาร์ดาชวิลี ผู้รักษาประตูจากบาเลนเซียในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งอาจลดลำดับตัวเลือกของเคลเลเฮอร์ลงไปอีกฟอร์มส่วนตัว:
เคลเลเฮอร์พิสูจน์ตัวเองในเกมที่ได้รับโอกาส โดยเฉพาะการเซฟจุดโทษและการควบคุมเกม แต่การได้ลงเล่นสม่ำเสมออาจเป็นสิ่งที่เขาต้องการเพื่อพัฒนาศักยภาพสูงสุด
ทางเลือกของเคลเลเฮอร์:
หากเคลเลเฮอร์ต้องการเป็นตัวจริงและลงเล่นอย่างต่อเนื่อง การย้ายทีมอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาประตูที่มีศักยภาพติดอันดับต้น ๆ ของโลกในอนาคต
ดังนั้น โอกาสของเขาขึ้นอยู่กับแผนการจัดทีมของลิเวอร์พูล และความมุ่งมั่นของเคลเลเฮอร์เองว่าจะเลือกอยู่สู้หรือย้ายไปหาประสบการณ์ในที่อื่น
เคลเลเฮอร์จำเป็นต้องย้ายออกจากลิเวอร์พูลหรือไม่?
การพิจารณาอนาคตของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ กับลิเวอร์พูลขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของตัวนักเตะเอง รวมถึงสถานการณ์ในทีมปัจจุบัน:
เหตุผลที่อาจทำให้เคลเลเฮอร์ต้องย้ายทีม
โอกาสในการลงเล่นที่จำกัด:
ด้วยการกลับมาของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ และฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขา เคลเลเฮอร์อาจได้ลงเล่นแค่ในเกมบอลถ้วยหรือเมื่อมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาฝีมือของผู้รักษาประตูวัย 25 ปีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น:
มีข่าวว่าลิเวอร์พูลสนใจคว้าตัว จอร์จี มามาร์ดาชวิลี ผู้รักษาประตูจากบาเลนเซียในซัมเมอร์หน้า ซึ่งอาจทำให้ตำแหน่งตัวสำรองของเคลเลเฮอร์ถูกท้าทายยิ่งขึ้นความต้องการลงเล่นต่อเนื่อง:
หากเคลเลเฮอร์ต้องการโอกาสลงสนามสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาฝีมือ การย้ายไปทีมที่ให้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
เหตุผลที่เขาอาจเลือกอยู่ต่อ
โอกาสในระยะสั้น:
เคลเลเฮอร์ยังคงมีโอกาสลงเล่นในฟุตบอลถ้วยอย่าง คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ ซึ่งอาจช่วยให้เขาแสดงความสามารถต่อทีมและแฟนบอลได้สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย:
ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่เคลเลเฮอร์เติบโตขึ้นมา การได้เล่นกับทีมระดับสูงและการฝึกซ้อมร่วมกับผู้เล่นชั้นนำอาจเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของเขาความเป็นไปได้ในอนาคต:
หาก อลิสซอน เบ็คเกอร์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บหรือย้ายทีมในอนาคต เคลเลเฮอร์อาจกลายเป็นตัวเลือกหลักของลิเวอร์พูลได้
บทสรุป
การย้ายทีมหรืออยู่ต่อนั้นขึ้นอยู่กับความทะเยอทะยานและลำดับความสำคัญในอาชีพของเคลเลเฮอร์ หากเขาต้องการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาตัวเอง การย้ายทีมอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่หากเขาเลือกที่จะสู้เพื่อตำแหน่งในทีมระดับสูงอย่างลิเวอร์พูล เขาก็ยังสามารถสร้างผลงานในบทบาทที่ได้รับได้เช่นกัน
